ในปี 1929 Alfred Butts เป็นสถาปนิก
ปีต่อมาเขาต้องเป็นคนตกงาน เเละเขาก็ไม่ได้แปลกใจอะไรนัก ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจเเบบนี้
มีหลายๆปัจจัยที่ทำให้คนคนหนึ่งอยู่ คนอีกคนต้องไป เเต่ละบริษัทจะมีวิธีลดพนักงานของพวกเขาด้วยวิธีที่ต่างกัน
บางที่เลือกเก็บคนที่เก่งที่สุดเอาไว้ บางที่เลือกเก็บพนักงานที่มีเงินเดือนน้อยๆเอาไว้ บางที่เลือกที่จะสุ่ม ให้โชคชะตาเป็นตัวกำหนด คล้ายๆเกม เเต่ละคนมีคุณค่าต่างกัน อยู่ที่ว่าจะมองมุมไหน
เขาคิดว่าเขาอาจจะมีคุณค่าไม่พอ ที่บริษัทจะเก็บเขาไว้ หรือ เขาอาจจะเเค่โชคร้าย?
เหมือนนักคิด นักสร้างสรรค์ทั่วๆไปที่ตกงาน พวกเขาต้องการทำอะไรสักอย่าง เพื่อปลดปล่อยความคิดฟุ้งซ่านของเขา เเม้ว่ามันจะไม่ใช่งาน ไม่มีรายได้ เเต่เขาต้องหาอะไรทำสักอย่าง
เขาคิดว่าเขาจะสร้างเกมสักอย่างขึ้นมา
เเต่นี่ไม่ได้เป็นเเค่กิจกรรมสนุกๆฟุ้งซ่าน เขาจะทำมันอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากการค้นคว้าข้อมูล เพื่อนำมาวิเคราะห์การตลาดของเกมนี้
เขาจะไม่ทำการ์ดเกมเเน่ๆเพราะทุกๆคนต่างก็มีกันเเล้ว
เเละก็ไม่ใช่เกมที่ต้องการให้ผู้เล่นซื้อชิ้นส่วนใหม่ๆเพื่อนำมาประกอบอยู่เรื่อยๆ
ดังนั้นเขาจึงสรุปเกมที่มีอยู่ในตลาด ณ ขณะนั้น
เขาเเยกออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ
1. เกมที่ขึ้นอยู่กับโอกาส เเละตัวเลข เช่น Bingo , ลูกเต๋า
2. เกมที่ขึ้นอยู่กับทักษะในการเคลื่อนที่ เช่น หมากรุก ,หมากฮอส
3. เกมภาษาที่ขึ้นอยู่กับความรู้ของผู้เล่น เช่น Crosswords
หลายๆเกมในตลาดมักรวม ข้อ 1 กับ 2 รวมกัน
Alfred Butts มองเห็นโอกาสบางอย่าง
มีสิ่งหนึ่งที่ตลาดยังไม่มี นั้นก็คือ เกมภาษาที่รวมเอาโชคเเละทักษะเข้ามาไว้ด้วยกัน
เเละเขาก็เริ่มคิดค้นเกมจากจุดนั้น…
มันจะต้องมีสักทาง ที่ผู้เล่นที่ดีกว่าเอาชนะผู้เล่นที่อ่อนเเอกว่าสินะ?
เขาเริ่มสำรวจตัวเองอีกครั้ง
ทุกๆวันเขาจะสังเกตรูปแบบภาษา บนหน้าหนังสือพิมพ์ New York Times
เขาจะให้คะเเนนคำที่ใช้บ่อยๆ เป็นคำที่มีคุณค่าน้อยสุด ง่ายต่อการใช้งาน นั้นก็คือตัว E
มันควรจะมีคะเเนนต่ำที่สุด
B กับ H ไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก ควรจะมีคะเเนนที่สูงกว่า
Q กับ Z ใช้ยากสุด ควรจะมีคะเเนนสูงที่สุด
เขาเริ่มตัดไม้ เป็นชิ้นๆเล็กๆฉลุตัวอักษรพร้อมคะเเนนเล็กๆตรงขอบ
เเละเรียกมันว่า Lexico
เขานำไปเสนอต่อโรงงานผลิตต่างๆเเต่ก็ถูกปฏิเสธ เพราะยังไม่มีเกมอะไรเเบบนี้มาก่อน เเละพวกเขาก็ไม่ต้องการที่จะเสี่ยง
เขาเร่ขายมันด้วยตนเอง ซึ่งขายไปได้ทั้งหมด 84 ชุด
เขาเปลี่ยนชื่อเป็น Criss Cross Words
เขาพยายามปรับเปลี่ยนไอเดียบางอย่าง
เขาเพิ่มกระดานเข้าไป ซึ่งในเเต่ละช่องจะมีคะเเนนที่ต่างกันไป
เพิ่มตัวตัวอักษรที่ว่างเปล่าเข้าไป หมายถึง มันจะเเทนด้วยอักษรอะไรก็ได้
เเต่มันก็ยังไม่มีโฆษณาหรือผู้สนับสนุนอะไรมาสนใจ ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักเกมนี้เลย
มีคนเคยบอกว่า “โชค” จะเกิดขึ้นต่อเมื่อ “ความพร้อม” มาพบกับ “โอกาส”
เเละนั้นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา
ในปี 1952 Jack Straus เจ้าของห้างสรรพสินค้า Macy กำลังท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดพักผ่อนเเถวๆนั้นพอดี
เขาเล่นเกมของ Alfred อยู่ที่โรงเเรม ซึ่งตอนนั้นมันได้ถูกเปลี่ยนเป็นชื่อ Scrabble
เมื่อเขากลับมาที่นิวยอร์ก เขาสั่งเกมนี้เข้ามาล็อตใหญ่
เเละเมื่อเกมนี้ มีชื่อของ Macy เข้ามาเกี่ยวข้อง มันจะได้ทั้งโฆษณาเเละผู้สนับสนุนตามมาด้วย อย่างที่ไม่ต้องร้องขออีกต่อไป
เกมของ Alfred Butts เริ่มขายได้ 6 พันชุด ใน 1 สัปดาห์
ทุกวันนี้มันได้ถูกขายออกไปในเเต่ละที่ ทั่วโลก ด้วย 29 ภาษา
มีทั้งเเบบpremium ,พกพาได้ ,เเบบมีเเม่เหล็ก ,เเบบภาษาเบลล์ ,แบบที่เล่นกันได้ในมือถือ
มีเเม้เเต่รายการทีวี ที่เเข่งขันชิงเเชมป์ในระดับประเทศ เเละระดับนานาชาติ
เพียงเพราะเขารู้ว่าการฝึกฝน เเละการสังเกต มีคุณค่ามากๆต่องานสร้างสรรค์ เเละโชคเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ
มันไม่ได้หมายถึงโชค ความซวย ดวงดาว หรือความบังเอิญใดๆ

เหมือนอย่างที่บางคนอาจมองว่าตนเองโชคร้ายที่หยิบได้ตัว Q หรือ Z เเต่ถ้าคุณมีความรู้มากพอ คุณจะสามารถ “พลิกเกม” จากผู้เเพ้ให้กลายเป็นผู้ชนะได้
เหมือนอย่างที่หลายๆคนตกงานตอนช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ที่บางคนมองว่ามันคือความล้มเหลว เเต่บางคนมองว่ามันคือ “โอกาส” ที่จะออกมาทำอะไรบางอย่างที่ต่างออกไป
มันอยู่ที่ว่า…คุณจะมองมุมไหน และรู้มากเเค่ไหน