นอกจากการมีโต๊ะปิงปองเเล้ว บริษัทในอนาคตควรมีอะไรบ้างในสายตาของนักธุรกิจรุ่นใหม่สิงคโปร์
ค่าเฉลี่ยอายุของเจ้าของธุรกิจในสิงคโปร์ อยู่ที่ราวๆ 28 ปีซึ่งถือว่าน้อยที่สุดในโลก 30% เป็นเจ้าของธุรกิจก่อนที่พวกเขาจะจบมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ นักธุรกิจเหล่านี้เข้ามาเปลี่ยนวิธีการทำงานเเบบเดิมๆ เเละมันก็ทำให้เราพอจะเห็นภาพได้ว่าบริษัทที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร เเละนี่คือสิ่งที่ได้เกิดขึ้นเเล้ว…

1. วิธีการรู้ Feedback
Deliveroo เป็นบริษัทส่งอาหารเดลิเวอรี่สัญชาติอังกฤษ Siddharthเป็นผู้จัดการอยู่ที่สิงคโปร์ เขาออกไปส่งของด้วยตนเองไม่ต่างๆจากคนอื่นๆในทีมงาน พวกเขามีหน้าที่ส่งอาหาร โดยเเต่ละเดือนจะตกอยู่ที่ 6,000 รอบ
ในฐานะผู้จัดการ เขาต้องการให้พนักงานเเก้ปัญหาให้ตรงจุด เผชิญหน้ากับปัญหาอย่างตรงไปตรงมา รู้ว่าบริษัทกำลังทำอะไรอยู่เเละรู้ความเป็นไปของธุรกิจเเบบนี้ของบริษัทอื่นๆด้วย
ในงานบางประเภท การประเมินสถานการณ์ตามตัวเลขสถิติอาจจะยังไม่พอ อย่างเช่นที่เกิดขึ้นในสิงคโปร์ ด้วยพื้นที่ที่เเคบ ในบางครั้งDeliveroo ต้องส่งอาหารโดยใช้จักรยาน เเละสกู๊ตเตอร์เเต่พอถึงช่วงหน้าฝนมันจะเป็นอันตรายมากในการส่งอาหารเเต่ละครั้ง เเละถ้าผู้จัดการไม่ลองด้วยตนเองก็จะไม่รู้เลยว่ามันอันตรายเเค่ไหน
Deliveroo จึงเข้าไปขอความร่วมมือกับทางรัฐบาลให้ออกกฎประกันอุบัติเหตุให้กับพาหนะขนาดเล็กด้วย มันจึงที่ให้คนที่ใช้จักรยาน หรือสกู๊ตเตอร์ได้รับประกันอุบัติเหตุในเวลาต่อมา ทำให้ Deliveroo เเละประชากรสิงคโปร์ได้ประโยชน์จากการร่วมมือกับทางรัฐบาลในครั้งนี้ด้วย

2. วิธีการสมัครงาน
Glints เป็นแอพช่วยหางาน ให้คนที่หางานเจอบริษัทที่ใช่ที่สุด ซึ่งจะทำงานคล้ายๆกับเเอพหาคู่ บริษัทจะสามารถคัดกรองผู้สมัครที่ “ใช่” จากเเสนกว่ารายชื่อให้เหลือเพียงไม่กี่สิบรายชื่อภายในเวลาไม่กี่วินาที
Glints จะใช้ Ai เป็นตัววิเคราะห์คุณสมบัติเหล่านั้น เหมาะสำหรับเด็กเพิ่งจบใหม่ เเละนักศึกษาที่ต้องการหาที่ฝึกงาน เพราะบริษัทส่วนใหญ่ที่ใช้เเอพนี้เป็นบริษัท IT ที่ต้องการคนรุ่นใหม่ๆเข้ามาทำงาน
อีกความสามารถพิเศษของระบบนี้คือมันสามารถประเมินลักษณะนิสัยของผู้สมัครได้ด้วย คงไม่มีบริษัทไหนอยากรับพนักงานที่มีวิธีการคิด ไลฟ์สไตล์ ที่ต่างไปจากบริษัทเท่าไหร่นัก
เพราะฉะนั้นสิ่งที่เป็นไปได้ในอนาคต ระบบ Ai จะเข้ามาวิเคราะห์ว่าทัศนคติของคุณสามารถเข้ากับองค์กรมากน้อยเเค่ไหน ก่อนที่คุณจะเข้ามาทำงานด้วยซ้ำ การมีอุดมการณ์ที่ชัดเจน หรือไลฟ์สไตล์เฉพาะอาจไม่ใช่เรื่องที่เป็นอันตรายอีกต่อไปในอนาคต เพราะถึงอย่างไรระบบ Ai จะทำการสรรหาบริษัทที่เหมาะสมให้กับคุณจนได้
เเละเมื่อคุณได้มีโอกาสทำงานร่วมกับกลุ่มคนที่มีความคิดคล้ายๆกับคุณ มันจะมีโอกาสมากขึ้นที่บริษัท Startup นั้นจะประสบความสำเร็จ

3. การดึง Data มาใช้ให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Shopback เป็นแอพช๊อปปิ้งออน์ไลน์ที่จะตามหาดีลที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ เเล้วยังมีโอกาสได้เงินคืนด้วย ก่อตั้งขึ้นโดยการรวมตัวของนักธุรกิจรุ่นใหม่ 6 คนในปี 2014 ปัจจุบันมีพนักงานในสิงคโปร์ 200 คน 4 ใน 5 เป็นคนรุ่นใหม่
Data จะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ใช้ในการตัดสินใจในทุกเรื่องๆ มันเป็นข้อมูลประจักษ์ที่เชื่อถือได้ที่สุด เป็นสิ่งที่ทุกๆคนจะได้เห็นเหมือนๆกัน เเละไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาดีเบตกันอีกให้วุ่นวาย พวกเขาไม่เชื่อว่าการใช้อารมณ์ความรู้สึกในการตัดสินใจจะเป็นทางออกที่ดีให้กับบริษัท
เเละในยามที่พวกเขาขาดคนเข้ามาทำงานจริงๆ พวกเขาจะไม่ฝืนรับคนที่มีเเนวคิดไม่ตรงตามเเนวทางของบริษัทเข้ามาเด็ดขาด เเละ Data ก็คงจะพิสูจน์ออกมาให้เห็นว่าวิธีการนี้ทำให้บริษัทได้รับประโยชน์มากกว่า

4. ผู้นำที่ให้เเรงบันดาลใจ
เเทนที่จะบ่นว่าเด็กรุ่นใหม่มีความอดทนต่ำ พวกเขาจะหาหนทางในการทำงานร่วมกับคนที่มีนิสัยเเบบนี้ให้ได้
ปัญหานี้เเทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยทั่วโลกเเม้เเต่ในสังคมสิงคโปร์ เเต่ท้ายที่สุดเเล้วเด็กรุ่นใหม่ทุกคนไม่อยากเห็นตัวเองดูเเย่ ดูห่วยไปกว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ
บริษัทจำเป็นที่จะต้องเปิดโอกาสให้มากขึ้นให้คนกลุ่มนี้ได้ทดลองสิ่งใหม่ๆ เปิดพื้นที่ให้คนเหล่านี้สามารถทำอะไรผิดพลาด เเล้วเรียนรู้ไปกับมันได้ ระบบ “พนักงานดีเด่น” จะยังเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่เเต่อาจจะถูกนำเสนอในรูปแบบใหม่เเทน
คนกลุ่มนี้ต้องการความเชื่อ เเละมีพื้นที่เพียงพอให้ได้พิสูจน์ตัวเอง ผู้นำองค์กรจะเป็นส่วนสำคัญมากที่จะให้คนเหล่านี้จดจ่อ เอาจริงกับงานที่ทำ ผู้นำที่มีความคิดทันสมัย , หัวก้าวหน้า, ให้เเรงบันดาลใจ ,มอบจุดประสงค์ที่สำคัญในใช้ชีวิต , มีความจริงใจเเละพยายามหาลู่ทางในการดึงศักยภาพของคนออกมาได้ จะทำให้เด็กรุ่นใหม่ทำงานออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพเเละสร้างสรรค์
บริษัทใหม่ๆต้องการพลังงานสดใหม่จากคนเหล่านี้ ที่จะพลักดันให้องค์กรไปข้างหน้าเเละมีกำลังพอที่จะเเข่งขันกับตลาดโลกได้
Sources : CNA Insider Slush Singapore e27.co
ติดตามเพจ : www.facebook.com/WeTheVaporTH