ที่มาแปลกๆของเครื่องเล่นMP3

ในปี ค.ศ. 1979 Kane Kramer ชาวอังกฤษอายุ 23 ปี  และเพื่อนของเขา Jame Cambell อายุ 21 ปีเกิดไอเดียที่จะสร้างเครื่องเล่นเพลงขนาดเท่ากับซองบุหรี่ขึ้นมา ภายใต้ระบบที่พวกเขาเรียกว่า IXI

มันจะมีหน้าจอขนาด 1 ใน 3 และปุ่มที่ทำหน้าที่ต่างๆกันไป

เขามองเห็นตลาดของเครื่องเล่นเพลง และเชื่อว่ามันจะทำให้ทั้งผู้ฟังและค่ายเพลงได้รับประโยชน์จากสิ่งประดิษฐ์นี้

จากนั้นเขาจดลิขสิทธิ์เเนวคิดนี้เเล้วตั้งบริษัทขึ้นมา

ทุกอย่างเป็นไปได้สวย มียอดสั่งเข้ามาเป็นมูลค่าถึง 328 ล้านเหรียญ มีเเม้เเต่กระทั้งเซอร์ เจมส์ พอล แม็กคาร์ตนีย์เป็นนายทุนคอยสนับสนุนให้

แนวคิดของ Kramer ล้ำหน้าไปไกลมากๆ ทั้งๆที่ตอนนั้นยังไม่มีแม้แต่อินเตอร์เน็ต ไม่มีคอมพิวเตอร์ที่ใช้ตามบ้านเรือน ซีดีก็ยังไม่ถูกคิดค้นขึ้น

แนวคิดของมันใกล้เคียงกับ Itune store มากๆ รวมถึงสื่อออนไลน์อื่นๆ ที่สามารถเก็บข้อมูลไว้ที่เซิร์ฟเวอร์หลักแล้วมีการชำระเงินผ่านทางโทรศัพท์

ลูกค้าจะเอาเครื่องเล่นของตัวเองมาที่ศูนย์จากนั้นก็ซื้อเพลงที่จะถูกบรรจุลงใน memory การ์ดขนาดเล็กๆ

ศูนย์ที่ใช้รวบรวมเพลงในการซื้อขายที่ Kane Kramer ออกแบบไว้

การเเสดงสดจะถูกบันทึกลงในการ์ดแล้วจะขายได้ในทันที ไม่มีการผลิตที่เป็นสินค้าแบบจับต้องได้ จะทำให้ลดเงินค่าผลิตลงและคนก็จะซื้อด้วยราคาที่ถูกลง ศิลปินหน้าใหม่สามารถโปรโมทงานของตัวเองได้ง่ายขึ้นโดยใช้ต้นทุนที่ต่ำลง สามารถซื้อเพลงผ่านเครื่องจำหน่ายที่จะถูกติดตั้งตามบาร์ ตามห้างสรรพสินค้า ลักษณะคล้ายๆการทำธุรกรรมผ่านทางตู้ ATM

แต่พอมาถึงปี ค.ศ. 1988 บริษัทของ Kramer มีปัญหาด้านการเงิน เขาตัดสินใจไม่ไปต่ออายุสิทธิบัตร ทำให้เเนวคิดของเขาไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาจริงๆ

หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1992 มีผู้ที่คิดค้นสิ่งที่เรียกว่า MP3 ขึ้น

มันถูกคิดค้นมาเพื่อให้คุณภาพของเสียงเทียบเท่ากับซีดีแต่ใช้พื้นที่ในการเก็บข้อมูลที่น้อยกว่า โดยการตัดคลื่นความถี่บางตัวออกให้เหลือเเต่ส่วนที่มนุษย์สามารถได้ยินเท่านั้น

แม้ว่าจะมีผู้ที่คิดค้น MP3 ได้เเล้ว เเต่หลายคนยังกลัวว่าการผลิตเครื่องเล่นเพลงจะทำให้พวกเขาถูกฟ้องจากค่ายเพลงใหญ่ๆ พวกเขาจึงไม่กล้าผลิตเครื่องเล่นเพลงออกมาเอง

ตอนนั้น Sony เพิ่งทำการซื้อ Columbia Records เข้ามา ทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะเปิดตลาดใหม่ อย่าง MP3 เช่นกัน

แต่มีอยู่บริษัทหนึ่งที่กล้าพอที่จะเสี่ยงกับเทคโนโลยีใหม่นี้ พวกเขาคือ SaeHan Information Systems ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเล็กๆของ Sumsung และพวกเขาก็ได้สร้าง MPMAN ขึ้นมา

มันเปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1998 มีหน่วยความจำที่ 32 – 64 mb บรรจุได้ราว 6 -12  เพลง มีหน้าจอ LCD แสดงผลว่ากำลังเล่นเพลงอะไรอยู่ ราคาอยู่ที่เครื่องละ 600 เหรียญ USD ในปัจจุบัน

เครื่องเล่น MPMAN

ในช่วงนั้น MP3 กำลังไปได้ดีพร้อมๆกับการเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้นของอินเตอร์เน็ต แต่ก็ยังไม่ค่อยมีใครเข้าใจว่า MPMAN จะดีกว่าเครื่องเล่นซีดีเพลงตรงไหน

ไม่กี่เดือนต่อมา Diamond Rio ได้เปิดตัวออกมา เเต่มันถูกฟ้องอย่างรวดเร็วจากค่ายเพลงในสหรัฐฯ

โชคดีที่ Diamond Rio เป็นฝ่ายชนะในครั้งนั้น และนั่นถือว่าเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของวงการเพลง เพราะถ้าพวกเขาไม่ชนะในตอนนั้น ก็อาจจะไม่มีเครื่องเล่นเพลง หรือระบบที่สามารถฟังเพลงออนไลน์ได้เหมือนในปัจจุบัน

เครื่องเล่น MP3 Rio PMP300

ในปี ค.ศ. 2001  IPod ได้ถือกำเนิดขึ้น เเละมันถือว่าการปฏิวัติวงการเพลงอย่างเเท้จริง เพราะมันได้เข้ามาเเก้ปัญหาที่เครื่องเล่นเพลงทั่วไปไม่สามารถทำได้ นั่นก็คือปุ่มกด

ก่อนหน้านั้นถ้าคุณต้องการเปลี่ยนเพลง คุณต้องกดลงไปในเครื่องทีละเพลง ทีละเพลง ด้วยปุ่มกดเล็กๆ เเต่ถ้าคุณมีเพลงกว่า 1 พันเพลงล่ะ ?

IPod เข้ามาแก้ปัญหานี้โดยการใช้วงล้อที่สามารถสไลด์ข้ามเพลงได้ นอกเหนือจากทำให้เลือกเพลงกว่าพันเพลงได้ง่ายขึ้นเเล้ว ผู้คนยังสนุก เพลิดเพลินไปกับการหมุนวงล้อนั้น ทำให้เกิดประสบการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน จนทำให้ IPod ประสบความสำเร็จ และทำให้ Apple เป็นที่รู้จักของผู้คนเสียที

[โฆษณาตัวแรกของ IPod ]

ในปี ค.ศ. 2008 Apple เพิ่งจะมารู้ว่า เมื่อเกือบ 20 ปีก่อนมีชายที่ชื่อ Kane Kramer ได้คิดค้นเครื่องเล่นเพลงลักษณะเดียวกับ IPod

ตอนนั้น Kramer ได้กลายเป็นคนขายเฟอร์นิเจอร์ที่ฐานะไม่ค่อยดีคนนึง เขาได้รับการติดต่อจากทาง Apple ว่าต้องการจะทราบข้อมูลเพิ่มเติมจากสิ่งที่ Kramer ได้คิดค้นไว้

มันเป็นช่วงเดียวกับที่ Apple กำลังถูกฟ้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์เครื่องเล่นเพลงที่ดันไปคล้ายกับที่มีอยู่เเล้ว โดยผู้ถือลิขสิทธิ์นี้เป็นของบริษัท Burst.com

Apple ได้ยื่นหลักฐานว่า มีการคิดค้นเครื่องเล่นเพลงมาก่อนหน้านั้นแล้วโดย Kane Kramer และ Apple ก็ให้เครดิตกับเขาในฐานะผู้คิดค้น IPod หรือในอีกทางหนึ่ง Apple ต้องการใช้ Kane Kramer ในการต่อรองกับ Burst เพื่อให้ Apple ได้หลุดจากคดีนี้เท่านั้นเอง

Kane Kramer ได้รับเงินค่าเดินทางในการทำเรื่องในศาลรวมถึงได้รับ IPod เป็นค่าตอบแทน ซึ่งหลังจากนั้น 8 เดือน มันก็ใช้งานไม่ได้แล้ว

IPod ขายได้กว่า 400 ล้านเหรียญ USD  แต่ Kane Kramer ไม่ได้รับเงินใดๆเลยในส่วนนั้น

 

 

follow

 

Advertisement

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

%d bloggers like this: